บริษัทขายฝากอสังหาฯ ธุรกิจสุดปัง แต่ข้อควรระวังเพียบ!
รู้ไหมว่าบริษัทขายฝากนับเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาล แต่ก็เป็นอีกหนึ่งลู่ทางที่ทำให้หลายคนสูญเสียที่ดินและอาคารเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยข้อกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ส่งผลให้มีข่าวสลดต่าง ๆ เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ถ้านึกไม่ออกก็ให้นึกถึงข่าวฆ่ายกครัว ที่มีสาเหตุมาจากความเครียดจากการสูญเสียทรัพย์สิน ดังนั้นหากไม่ต้องการพบเจอปัญหาสุดเลวร้าย ควรทำความเข้าใจรายละเอียดการธุรกิจขายฝาก หรือการฝากขายอสังหาฯ ให้ดีซะก่อน
“ขายฝาก” คืออะไร? ทำความเข้าใจให้ดีก่อนใช้บริการบริษัทขายฝาก
การขายฝาก คือ สัญญาซื้อขาย โดยกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สินจะตกเป็นของผู้ซื้อทันที แต่มีข้อกำหนดไว้ว่าผู้ขายสามารถไถ่ถอนทรัพย์นั้น ๆ ภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ ในกรณีที่เป็นอสังหาฯ จะมีกำหนดอยู่ที่ 10 ปี แต่ในกรณีที่เป็นสังหาฯ จะมีกำหนดอยู่ที่ 3 ปี นับตั้งแต่เวลาที่เริ่มทำการซื้อขาย
หากต้องการขยายเวลาไถ่ถอน สามารถทำได้ตลอดเวลาและจะขยายกี่ครั้งก็ได้ แต่รวมแล้วจะต้องไม่เกิน 10 ปี นับตั้งแต่จรดปากกาเซ็นสัญญาขายฝาก ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของผู้รับซื้อฝาก และจะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เท่านั้น
คำแนะนำจากกรมที่ดิน สำหรับบริษัทขายฝาก
การจดทะเบียนไถ่ถอนจากบริษัทขายฝาก นับเป็นคนละส่วนกับการใช้สิทธิไถ่ เนื่องจากสิทธิดังกล่าวต้องกระทำภายในเวลาที่กำหนดตามสัญญา แต่ถ้าหากเป็นการจดทะเบียนจะสามารถดำเนินการเมื่อไหร่ก็ได้ ในกรณีที่ไม่สามารถตามตัวผู้ซื้อฝากได้ หรือผู้ซื้อฝากมีเจตนาหลีกเลี่ยง ไม่ยอมให้การไถ่เกิดขึ้น แนะนำให้นำสินไถ่ไปวาง ณ สำนักงานวางทรัพย์ภายในกำหนดเวลา โดยสามารถเดินทางไปที่สำนักงานที่สะดวกได้ดังนี้
- สำนักงานวางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดี
- จ่าศาลของศาลจังหวัดนั้น ๆ (สำหรับจังหวัดที่ไม่มีสำนักงานบังคับคดี)
ในส่วนของค่าธรรมเนียมขายฝาก ต้องชำระเป็นค่าจดทะเบียนอัตราร้อยละ 2 ของราคาประเมิน นอกจากนี้ยังจะต้องดำเนินการชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และอากรแสตมป์ ตามประมวลรัษฎากรอีกด้วย
ไม่ว่าคุณจะต้องการขายฝากอสังหาฯ ในรูปแบบใด ๆ ก็ตาม ก่อนจรดปลายปากกาทำสัญญา หรือจดทะเบียนใด ๆ ก็ตาม ควรตรวจสอบข้อความในสัญญาให้ถี่ถ้วน แม้จะใช้เวลาสักเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ได้รับสัญญาที่ตรงตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นกำหนดเวลาในการไถ่คืน จำนวนเงินที่ขายฝาก (ตรงตามที่รับเงินจริงหรือไม่) รวมถึงอื่น ๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงตามมาในภายหลัง